Posted in

ไม่ค่อยอยากอะไรกับใคร จนกลัวว่าจะไม่มีใครเอา

เกิดมาจนอายุป่านนี้ มีการมีงานทำเป็นหลักแหล่งแล้ว แต่หลาย ๆ อย่างก็ยังไม่สมบูรณ์ หนึ่งในนั้นคือเรื่องการเข้าสังคม การใช้ชีวิตกับเพื่อนสนิทที่มีน้อยนิด จนอยากจะเปลี่ยนแปลงตนเอง

ความเป็นมาที่เป็นสาเหตุ

อย่างที่เคยเล่าเอาไว้ในชีวิตตอนเด็ก ๆ ว่าอยู่คนเดียวบ่อย ๆ และอยู่คนเดียวมาเกือบตลอด จนทำให้เคยชินกับการใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียว กอรปกันไม่มีแฟน ทำให้เวลาคิดจะทำอะไร ก็ทำได้เลย อยากไปไหนก็ไป อยากกินอะไรก็กิน อยากทำอะไรก็ทำ ชีวิตมันอิสระมาก

ตอนที่เรียนจบมัธยม สมัยนั้นยังไม่มี Social Network และโทรศัพท์มือถือ นี่ไปเรียนมหาวิทยาลัย ก็มีไปพร้อมเพื่อนเก่าบ้าง ติดต่อกันอยู่แค่นั้น จนเรียนจบมหาวิทยาลัย ก็เริ่มมี Hi5 และ Facebook ตอนนั้นก็ได้กลับไปติดตามเพื่อนตั้งแต่สมัยประถม มัธยม และมหาวิทยาลัย ก็เล่น Social Media มาปกติ จนเวลาผ่านไป เริ่มเห็นพัฒนาการของเพื่อนในหน้าที่การงาน และเมื่อหันมามองตนเอง ตอนนั้นยังเป็นพนักงาน Outsource ทำงานเป็นกะ ก็เป็นงาน IT ล่ะนะ เป็นงาน Operator เฝ้าระวังระบบเครือข่ายของเครือข่ายมือถือยี่ห้อนึง จึงทำให้เลิกเล่น Facebook ที่เป็นตัวตนไปเลย และก็ได้สร้างตัวตนอีกด้านนึงขึ้นมา กับเพื่อนในโลกออนไลน์ ที่ไม่เคยเจอะเจอกันจริง เป็นกลุ่มเกย์เหมือนกัน และก็ทำอย่างนี้มาจนปัจจุบัน

เพื่อนสนิทที่ยังเหลือ

เป็นเพื่อนที่เจอสมัยมหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพื่อนที่เรียนด้วยกัน แต่เป็นเพื่อนที่เจอกันในโลกอินเตอร์เน็ตที่เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน ก็ติดต่อกันมาเรื่อย ๆ จนทุกวันนี้ ผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้ว ก็ยังติดต่อกัน ไปเที่ยวด้วยกัน มีกันอยู่ 3 คน รวมนี่แล้ว

พฤติกรรมที่ไม่ดี

นี่เป็นคนไม่ชอบไปนอนห้องคนอื่น ไม่ชอบไปค้างอ้างแรมต่างจังหวัด แม้กระทั่งกลับบ้านเกิดก็ไม่ชอบ จึงมักจะเบี้ยว ตีมึน ไม่สนใจ หาทางเลี่ยงการเดินทางไปไหนตลอด ทั้งกับครอบครัว เพราะมีปัญหากับน้องสาว จึงไม่อยากไปนั่งรถมันอีก กับเพื่อน ด้วยความที่สังคมของเพื่อนสนิทนั้นกว้างขวางมาก เวลานี่ไปเที่ยวด้วย ก็ต้องไปจอยกับคนกลุ่มนั้น กลุ่มนี้ บางครั้งก็โอเค บางครั้งก็ไม่ชอบใจ มันไม่ถึงกับรู้สึกไม่ปลอดภัย หรือไม่สะดวกใจหรอกนะ แต่บางครั้งมันเหนื่อยกับการต้องเข้าไปในสังคมแปลกหน้า ไม่ได้แสดงอะไรมากมายหรอก แต่การต้องสะกดจิตตัวเองตลอดเวลา ปรับ Mind Set ตัวเองตลอดเวลา มันหนักหนาอยู่เหมือนกันนะ

ความเครียดที่ยังวนเวียนอยู่

ทั้งเรื่องการลดน้ำหนัก การหวังในโชคลาภที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิต การปรับตารางชีวิตตนเองให้สมดุลขึ้น ทั้งการทำงาน การกิน การพักผ่อน การให้เวลากับครอบครัว และเพื่อน มันมาเริ่มทำในตอนอายุ 40 ก็จะเหนื่อยหน่อย แต่ร่างกายยังครบ 32 ประการ และยังมีสติสัมปชัญญะที่ดีอยู่ ก็คงต้องทำต่อไป ให้ชีวิตหลุดจากความเครียดนี้ไปได้

อุทาหรณ์สอนใจ

อย่าตามใจตัวเองมากนัก อย่าให้ตัวเองมีความสุขโดยไม่มีใครมากนัก หากยังต้องการอยู่ในสังคม เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกย้อนแย้ง จนชีวิตสับสน และไม่มีความสุข อย่างน้อยตั้งสติ พิจารณา และทำให้ถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็น อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไร้ประโยชน์ เพราะหากไม่แก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ปล่อยให้มันคาราคาซัง ชีวิต จิตใจ ตนเอง ก็จะไม่หลุดพ้นจากความทุกข์ไปได้ แล้วชีวิตจะมีความสุขได้อย่างไร

IT officer, responsible for network communication systems and a chic person.

Subscribe
Notify of
guest
0 Comments
Oldest
Newest Most Voted
Inline Feedbacks
View all comments

Discover more from Diario Bitter

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading

0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x